สายพันธุ์ของผักเชียงดาที่มีคุณประโยชน์สูง
อัปเดตเมื่อ 13 พ.ย. 2562
ทำความรู้จักกับสายพันธุ์ของผักเชียงดาสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตเป็นอาหารเสริม

สำหรับสายพันธุ์ที่เหมาะสมของผักเชียงดา ทางสถาบันวิจัยเทคโนโลยีเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ได้รวบรวมและศึกษาวิจัยเพื่อคัดเลือกสายพันธุ์ผักเชียงดาที่ให้ผลผลิตสูงเพื่อเป็นต้นพันธุ์สำหรับการพัฒนาสายพันธุ์ที่มีปริมาณกรดจิมเนมิคและสารต้านอนุมูลอิสระสูงสำหรับใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารซึ่งมีจำนวน 2 สายต้นที่มีศักยภาพสูง คือ สายต้นเบอร์ 4 และ เบอร์ 6
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ที่แตกต่างกันที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด คือ สายต้นเบอร์ 4 มีลักษณะใบกลม หนา และยอดอวบสั้น ส่วนสายต้นเบอร์ 6 มีลักษณะใบยาวรี บาง และยอดยาวยอดยาว และมีปริมาณกรดจิมเนมิคในผักเชียงดาอบแห้งร้อยละ 1.51 – 1.53 ซึ่งปริมาณกรดจิมเนมิคที่มีผลต่อการลดน้ำตาลในเลือดควรมีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 1.2 (gravimetric method)
คุณภาพทางเคมีของผักเชียงดาสายต้นเบอร์ 4 และเบอร์ 6
เบอร์ 4
คลอโรฟิลล์ เอ 0.61 mg/g
คลอโรฟิลล์ บี 0.45 mg/g
คลอโรฟิลล์ 1.06 mg/g
แคโรทีนอยด์ 61.37 mg/g
ฟีนอลิก 8.62 mg/g
กรดจิมเนมิค 1.51mg/g
เบอร์ 6
คลอโรฟิลล์ เอ 0.63 mg/g
คลอโรฟิลล์ บี 0.23 mg/g
คลอโรฟิลล์ 0.85 mg/g
แคโรทีนอยด์ 51.67 mg/g
ฟีนอลิก 6.38 mg/g
กรดจิมเนมิค 1.53 mg/g
อ้างอิงข้อมูลจาก หนังสือ ผักเชียงดา ราชินีผักล้านนา